ทุกคนต่างก็มีเหตุผลในการ ติดตามตำแหน่ง คนอื่นจากโทรศัพท์มือถือ อย่างเช่น ผู้ปกครองที่ต้องการรู้ว่าลูกอยู่ที่ไหนเพื่อความปลอดภัย ตามหาเพื่อนในระหว่างไปเที่ยวด้วยกัน หรือหาตำแหน่งโทรศัพท์เมื่อทำหาย จึงทำให้การติดตามตำแหน่งจากเบอร์โทรศัพท์จึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในสถานการณ์เหล่านี้
มีหลายวิธีที่คุณสามารถ ติดตามตำแหน่ง ของผู้อื่นได้โดยใช้เพียงเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งคุณสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมจากด้านล่างนี้ (โปรดทราบว่าการติดตามผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมก่อนล่วงหน้าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย)
1. ติดตามผ่านแอป Find ที่ติดมากับเครื่องโทรศัพท์
สำหรับผู้ใช้โทรศัพท์ญี่ห้อ Apple และ Google สามารถเข้าใช้งานแอปติตามตำแหน่งได้จากอุปกรณ์ โดยแอปเหล่านี้มีฟังก์ชันที่ให้คุณสามารถแชร์ตำแหน่งให้กับเพื่อนหรือผู้อื่นได้ แน่นอนว่าทั้งสะดวดและง่ายดายในการหาตำแหน่ง และยิ่งไปกว่านั้นก็คือคุณสามารถเข้าใช้งานของแอปเหล่านี้ได้ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ได้อีกด้วย

วิธีการ ติดตามตำแหน่ง ผู้อื่นด้วยเบอร์โทรศัพท์โดยใช้แอป Find My ของ Apple
- เปิดแอป Find My และเลือกแถบ People
- เลือกบุคคลที่คุณต้องการแชร์ตำแหน่งด้วย
- เลื่อนลงและเลือก Ask to follow location จากนั้นเลือก OK

วิธีการ ติดตามตำแหน่ง ผู้อื่นด้วยเบอร์โทรศัพท์โดยใช้แอป Find My Device ของ Google
- ไปที่ android.com/find และล็อคอินเข้าบัญชี Google ของคุณ
- โทรศัพท์ที่หายจะได้รับการแจ้งเตือน
- ไปที่แอป Map คุณจะรับข้อมูลตำแหน่งโทรศัพท์
- จะเป็นตำแหน่งโดยประมาณการและอาจจะไม่ถูกต้อง
- ถ้าไม่สามารถหาโทรศัพท์ได้ คุณจะเห็นตำแหน่งล่าสุด
อย่างไรก็ตาม แอปที่ติดเครื่องมาเหล่านี้มีฟังก์ชันการใช้งานที่จำกัด ยกตัวอย่างเช่น Find My Device ไม่อนุญาตให้คุณตรวจสอบตำแหน่งของเพื่อนได้ เพียงแต่อนุญาตให้คุณติดตามตำแหน่งของอุปกรณ์ตนเองจากบัญชี Google เดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้นแอปเหล่านี้ไม่สามารถตรวจสอบตำแหน่งของอุปกรณ์ที่ระบบปฏิบัติการต่างกันได้ ซึ่งนั้นก็หมายความว่าคุณไม่สามารถติดตามตำแหน่งของเพื่อนที่ใช้โทรศัพท์แอนดรอยด์ได้ถ้าคุณใช้โทรศัพท์ของ Apple
2. iSharing: ไอแชร์ริ่ง
ไอแชร์ริ่ง (iSharing) เป็นแอปที่คุณสามารถดาวน์โหลดเพื่อติดตามตำแหน่งของเพื่อนหรือครอบครัวได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องคำนึงว่าเค้าใช้โทรศัพท์รุ่นอะไรหรือจะต้องเข้าสู่ระบบ iCloud หรือ Google ไว้หรือไม่ เพียงแค่เพื่อนเพิ่มคุณไปยังบัญชีของพวกเขา คุณก็สามารถติดตามตำแหน่งได้ 24/7 ซึ่งมาพร้อมความแม่นยำสูง และฟีเจอร์เพิ่มเติมมากมาย เช่น ประวัติตำแหน่งหรือการแจ้งเตือน เป็นต้น
วิธีการ ติดตามตำแหน่ง ด้วยเบอร์โทรศัพท์ในแอป iSharing
- เปิดแอป iSharing
- ลงทะเบียนหรือเข้าสู่ระบบ
- ไปที่หน้าเพิ่มเพื่อน ใช้วิธีการที่คุณต้องการในการเพิ่มเพื่อน (ในขั้นตอนนี้คุณสามารถกรอกเบอร์โทรศัพท์เพื่อเชิญเพื่อนเข้าร่วมได้)
- เมื่อเพื่อนได้ตอบรับคำเชิญของคุณ คุณก็สามารถติดตามตำแหน่งของเพื่อนได้ 24/7 และสามารถใช้งานของ iSharing เพิ่มเติมได้นั้นเอง

คุณยังสามารถเข้าสู่ฟีเจอร์เหล่านี้ได้ผ่าน iSharing:
- ดูประวัติตำแหน่งย้อนหลัง 30 วัน
- ส่งข้อความหรือรูปภาพได้ทันที
- ตั้งค่าความปลอดภัย
- การแจ้งเตือนฉุกเฉินและแจ้งเตือนเมื่อเพื่อนหรือครอบครัวออกหรือถึงจุดหมาย
คุณสามารถดาวน์โหลดแอป iSharing เพื่อแชร์ตำแหน่งได้ฟรี!
3. เปิดการใช้งาน IMEI
IMEI ย่อมาจาก International Mobile Equipment Identity หรือ รหัสสากลประจำอุปกรณ์เคลื่อนที่ ซึ่งคือหมายเลขประจำเครื่องโทรศัพท์มือถือที่โทรศัพท์แต่งละเครื่องมีแตกต่างกันออกไป คุณสามารถใช้หมายเลข IMEI เพื่อติดตามตำแหน่งได้เช่นกัน
คุณสามารถดูหมายเลขประจำโทรศัพท์ของคุณได้จากวิธีนี้:
- iPhone: การตั้งค่า > ทั่วไป > เกี่ยวกับ > เลื่อนหา IMEI
- Androids: การตั้งค่า > เกี่ยวกับ > สถานะ > เลื่อนหา IMEI

ซึ่ง IMEI มีการใช้งานที่คล้ายกับ Find My และ Find My Device โดยจะไม่แสดงตำแหน่งแบบเรียลไทม์และจะแสดงเพียงแค่ตำแหน่งที่ตรวจจับได้ล่าสุดเท่านั้น นั้นก็หมายความว่าคุณจะไม่ทราบตำแหน่งแบบเคลื่อนที่ได้ถ้าผู้ที่โทรศัพท์นั้นกำลังเดินทางอยู่นั้นเอง