สำหรับหลายคนแล้วปีนี้ถือเป็นปีที่ยากลําบากรวมถึงบุตรหลานของคุณด้วยเช่นกัน บางคนอาจจะรู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้าและบางทีวัยรุ่นหลายคนอาจจะรู้สึกไม่อยากลุกจากเตียงเพื่อไปโรงเรียนหรือขับรถไปทำงานเนื่องมาจาก ความเครียด
อย่างที่ได้บอกไป เราต่างก็รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาเหล่านี้ โดยเฉพาะบุตรหลานที่ยังคงต้องไปโรงเรียนหรือไปทำงานซึ่งถึเป็นหน้าที่รับผิดชอบในทุกๆ วันตอนนี้
ดังนั้นวันนี้ เราจึงอยากแชร์เทคนิคเพื่อช่วยแนะนำบุตรหลานในภายภาคหน้า ซึ่งเทคนิคเหล่านี้จะช่วยเป็นแนวทางแนะนำพวกเขาในการจัดการกับความเครียดหรือช่วยลดความเครียดได้ตามที่ต้องการ

ผู้ปกครองสามารถช่วยบุตรหลานในการจัดการกับ ความเครียด ได้อย่างไร?
การปลูกฝังนิสัยรักสุขภาพในบุตรหลานเพื่อสร้างสุขภาพจิตที่ดี การเป็นวัยรุ่นอาจะเป็นช่วงที่บุตรหลานของคุณมีกิจกรรมที่ต้องทำมากมาย ซึ่งร่วมถึงการทำการบ้าน กิจกรรมหลังเริ่มเรียน หรือทำงาน ดังนั้นจึงสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ปกครองสังเกตระดับความเครียดของบุตรหลายเพื่อป้องกันหรือใช้ความช่วยเหลือเมื่อต้องการ
จะเป็นประโยชน์เป็นอย่างมากถ้าผู้ปกครองแนะนำวิธีที่ตัวเองใช้ในการจัดการความเครียดกับบุตรหลาน แต่ถ้าพวกเขารู้สึกว่าไม่สามารถเปิดอกพูดคุยกับผู้ปกครองได้อย่างสะดวกใจ บางทีอาจจะให้ความช่วยเหลือโดยการขอความช่วยเหลือจากคนอื่น เช่น โค้ช ครู เพื่อน หรือผู้อื่นที่บุตรหลานไว้วางใจ
ซึ่งเคล็ดลับต่อไปนี้อาจช่วยแนะนำคุณและบุตรหลานในการจัดการความเครียดได้:
การใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด
สมัยนี้บุตรหลานของคุณใช้เวลาไปกับโซเชียลมีเดียและเทคโนโลยีที่มาใหม่ไปซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ช่วยสร้างความเพลิดเพลินใจให้ได้เป็นอย่างยิ่ง แต่ทั้งนี้ก็อาจส่งผลเสียต่อบุตรหลานได้เช่นกัน ดังนั้นจึงจำเป็นที่ต้องมีการใช้งานโทรศัพท์หรือ iPad ที่พอดี รวมไปถึงห้ามไม่ให้ใช้งานในช่วงเวลาครอบครัวหรือเมื่อมีการออกไปท่องเที่ยวกับครอบครัว
ปลูกฝั่งทักษะการเข้าสังคมที่ดี
หนึ่งในสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดปัญหาความเครียด คือการตามเทรนด์ใหม่ๆ ตลอดเวลาของวัยรุ่น แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเครียดสำหรับผู้ปกครองได้ ซึ่งเราทุกคนต่างก็เคยผ่านมาแล้วและสามารถเข้าใจได้เป็นอย่างดี
จัดการกับแรงกดดันในการใช้สารเสพติดและแอลกอฮอล์
บางทีการได้รับแรงกดก็ค่อนข้างยากสำหรับบุตรหลาน แต่จะยากกว่าในวัยรุ่นที่เป็นเกย์ที่เติบโตในสภาพแวดล้อมที่พวกเขาไม่เห็นตัวเองใน TV หรือภาพยนตร์ วัยรุ่นหลายคนอาจดื่มแอลกอฮอล์หรืออาจลองสารเสพติดเพื่อที่จะได้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งหรือได้รับความนิยม การพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์เหล่านี้อาจช่วยให้คำแนะนำบุตรหลานเมื่อพวกเขาต้องไปศึกษาต่อหรือในอนาคต
การสมัครเรียนต่อ ให้ไม่เกิด ความเครียด
เราเข้าใจดีว่าการเรียนต่อเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจสำหรับผู้ปกครองเพราะว่าบุตรหลานโตกันอย่างรวดเร็ว ทำให้พวกเขารู้สึกกดดันและอยากให้บุตรหลานได้ประสบความสำเร็จในการศึกษา โดยหวังว่าจะได้ศึกษาต่อในมหาลัยชื่อดัง เช่น จุฬาฯ หรือ ธรรมศาสตร์ ซึ่งความกังวลใจเหล่านี้สามารถหลีกเลี่ยงได้โดยการจัดเตรียมหรือวางแผนก่อนล่วงหน้า
คบเพื่อนๆ ที่เป็นตัวอย่างที่ดี
วิธีนี้จะช่วยให้บุตรหลานของคุณใช้เวลาร่วมกับผู้คนที่เป็นตัวอย่างที่ดี ไม่พาให้เสียผู้คน ซึ่งวิธีนี้จะช่วยคุณเลิกกังวลกับการที่บุตรหลานใช้ยาหรือถูกหลอกให้ใช้ได้ส่วนหนึ่ง
เรียนรู้สังเกตเมื่อบุตรหลานเกิด ความเครียด
วิธีนี้อาจจะยากในฐานะผู้ปกครอง ซึ่งอาจใช้เวลาระยะเวลาหนึ่งในการสังเกตเมื่อบุตรหลานรู้สึกเครียดและสิ่งที่พวกเขาอาจจะรู้สึก ยกตัวอย่างเช่น บุตรหลานของคุณอาจจะเลี่ยงการเข้าสังคมและปฏิเสธการออกไปเจอเพื่อน โดยบุตรหลานอาจจะเก็บตัว นอนเยอะเกินปกติหรือนอนไม่หลับ ซึ่งการระบุปัญหาเหล่านี้จะช่วยพูดคุยกับบุตรหลานเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งขึ้น
เราหวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ปกครอง สิ่งสำคัญก็คือวัยรุ่นทุกคนนั้นต่างกันออกไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาอยู่ในช่วงเจริญเติบโต ซึ่งคำแนะนำห้าข้อนี้อาจช่วยคุณและบุตรหลานในการจัดการกับความเครียดได้